1 ต.ค. 2556

นิทรรศการ กับเครื่องบิน

ผมต้องจัดนิทรรศการ แล้วจะจัดนิทรรศการ ไม่มีความรู้เลย จะทำได้ยังไง ????



ทางเลือกที่ดีที่สุด คือการไปดูนิทรรศการที่จัดขึ้นจริง มองเห็นข้อดี ข้อเสียของรูปแบบการจัดนิทรรศการ
ต่างๆ แล้วนำมาประยุกต์ใช้กับงานที่จะเกิดขึ้นต่อไป






ในการออกสำรวจ ศึกษาการจัดนิทรรศการในครั้งนี้ พวกผมได้เลือกไปที่ "พิพิฒพันธ์ฐานทัพอากาศ"







รูปแบบของการจัด เป็นนิทรรศการถาวร ซึ่งภายในนิทรรศการเดียว เราสามารถได้ชมทั้ง นิทรรศการกลางแจ้ง นิทรรศการในร่ม และนิทรรศการลอยฟ้า จากการสังเกตุลักษณะของการจัดง่ายๆ

1.เครื่องบินที่มีประวัติ ความสำคัญ และมีจำนวนน้อย จะถูกจัดไว้ในร่ม โถงขนาดใหญ่เพื่อเก็บรักษาตัวเครื่องบินไว้ไม่ให้เสียหายไปมากกว่าดิม

2.เครื่องบินที่มีขนาดใหญ่มากๆ และเป็นเครื่องบินที่มีจำนวนมาก ใช้ในภาระกิจทั่วๆไป เช่นเครื่องบินลำเลียง จะถูดจัดไว้ในส่วนของนิทรรศการกลางแจ้ง

3.เครื่องบินที่มีขนาดเล็ก และมีความเก่าแก่มาก จะถูกจัดไว้ในส่วนของนิทรรศการในร่ม เนื่องจากสามารถเคลื่นย้ายได้ง่าย สามารถนำมาจัดเรียงได้ออย่างเป็นระเบียบ สวยงาม และรักษาเครื่องบินเก่าๆไม่ให้เสียหายไปมากกว่าเดิม

4.แบบจำลองเครื่องบินต่างๆ พิพิฒพันธ์ใช้รูปแบบนิทรรศการลอยฟ้า เพื่อเพิ่มความน่าสนใจ ทำให้ดูนิทรรศการมีชีวิตมากกว่าเดิม เสมือนมีเครื่องบินบินอยู่จริง

5.เครื่องบินที่มีความสำคัญกับราชวงศ์ไทย หรือเป็นเครื่องบินที่ได้รับมอบในโอกาสพิเศษ จะถูกจัดแสดงไว้ในโถงขนาดใหญ่ และมีการบำรุงรักษาอย่างดี

โอ้ววววว กว่าจะเดินได้ทั่ว เล่นเอาเมื่อยเหมือนกันนะ ^^"

นิทรรศการกลางแจ้ง

นิทรรศการลอยฟ้า

นิทรรศการในร่ม

หลังจากที่ได้ไปศึกษาการจัดนิทรรศการของพิพิฒพันธ์ฐานทัพอากาศ ผมก็เริ่มเข้าใจได้ทันทีว่า การจัดนิทรรศการ จะมีระบบ มีระเบียบ อยู่ทุกๆนิทรรศการ การจัดวาง การเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ภายในงาน มีความสำคัญต่อการเรียนรู้ของผู้เข้าร่วมงาน

ผมจะยกตัวอย่างง่ายๆ เครื่องบินรบ ลักษณะของการจัดจะเป็นโถง ห้องมืดๆ จะทำให้ดูมีความขลัง น่ากลัว มากกว่าไปจัดแสดงไว้กลางแจ้ง ซึ่งถ้าหากไปจัดแสดงกลางแจ้งอาจดูเหมือนเครื่องบินธรรมดา ไม่ได้ดึงดูดความสนใจให้เข้าไปชม

ยังมีความรู้อีกมากมายจากการได้ไปศึกษาการจัดนิทรรศการของพิพิฒพันธ์ฐานทัพอากาศ เป็นประสบการณ์การเรียนรู้ที่ดีทีเดียว



















หากเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ คนไหนสนใจไปชม เดินไปตามทางนี้เลยนะครับ


แล้วคุณจะรู้ ว่ามันเจ๋งแค่ไหน !!!!

นิทรรศการ ชมได้ผ่านจอคอม

       หลายคนคงไม่เข้าใจ เอ๊ะ นิทรรศการในคอมพิวเตอร์ มันคืออะไร ?????




           มันก็คือ นิทรรศการออนไลน์นั่นเอง เป็นนิทรรศการสมัยใหม่ ใช้เครือข่ายคอมพิวเตอร์ หรืออินเตอร์เน็ตเปรียบเสมือนสถานที่จัดนิทรรศการ นิทรรศการออนไลน์สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้หลากหลาย เพราะปัจจุบันผู้คนใช้อินเตอร์เน็ตกันเกือบ100เปอร์เซ็น ทำให้กลุ่มเป้าหมายกว้างขวางมากขึ้น สามารถเข้าชมนิทรรศการได้สะดวก ประหยัด รวดเร็ว และได้รับความรู้ไม่น้อยไปกว่าการเข้าชมนิทรรศการที่จัดขึ้นที่สถานที่จริง 
            
          ตัวอย่างนิทรรศการออนไลน์
เขาใช้ชื่อนิทรรศการว่า "เรือใบกับในหลวง" 



                    

                        เมื่อเปิดเข้าใปในนิทรรศการ จะพบหน้าต่าง เรียบง่าย ดูแล้วมีความขลังอยู่ในตัว ผู้จัดทำ เลือกใช้ทั้ง สีสรรค์ ตัวหลังสื่อ พื้นหลัง รูปภาพต่างๆ ได้เหมาะสม ภาพรวมของนิทรรศการออนไลน์นี้ ที่ต้องมีความเรียบง่าย อาจเป้นเพราะเป็นผลงาน เนื้อหา พระราชประวัติของในหลวง การที่ใช้สีสันที่แรงเกินไป อาจไม่เหมาะสมกับเนื้อหาได้ 

  คำว่า "เรือใบ กับ ในหลวง" ผู้จัดทำนิทรรศการนี้ ได้แบ่งเนื้อหาไว้ทั้งหมด 8 หัวข้อหลักๆ 
                         
                           1.หน้าหลัก
                           2.เรือใบฝีพระหัตถ์
                           3.ทรงเรือใบ ไปเตยงาม
                           4.อิสริยาภรณ์โอลิมปิก
                           5.เรือใบตระกุลมด
                           6.ในหลวงกับการแข่งขันเรือใบ
                           7.การสร้างเรือใบมดตามแบบในหลวง


                เป็นตัวอย่างของการจัดนิทรรศการที่เรียบง่าย เหมาะสมกับลักษณะของเรื่องที่จะนำเสนอได้เป็นอย่างดี สามารถแบ่งเนื้อหาได้ครอบคลุม 


                การจัดนิทรรศการประเภทนี้ผมมองว่า มันดีนะ มันสะดวก มันรวดเร็ว มันทันใจ แต่จะว่าไป แล้วถ้าอยากสัมผัส อยากสอบถาม อยากรู้มากกว่านี้ ผมจะต้องเดินเข้าไปในคอมพิวเตอร์????? 
                
                นี่แหละครับ ที่ผมยังมองว่ามันยังมีข้อเสีย และเป็นข้อเสียที่ร้ายแรงมากซะด้วย การเรียนรู้ใดที่ขาดปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ให้ความรู้กับผู้เรียนรู้ การเรียนรู้รู้นั้นอาจไม่คงทน หรืออาจจะลืมไปได้ง่ายๆ ไม่เข้าใจในสิ่งที่ศึกษาอย่างลึกซึ้ง

เส้นทางงาน Techno Show Case ก้าวล้ำนำการศึกษา


TECHNO SHOW CASE



                เมื่อต้นปีการศึกษา พวกเรานิสิตภาควิชาเทคโนโลยีสื่อสารการศึกษา ได้เริ่มโครงการการจัดนิทรรศการขึ้นมา โดยเป็นส่วนหนึ่งของวิชา ET440  เป็นวิชาที่เน้นเกี่ยวกับประสบการณ์การจัดนิทรรศการ เมื่อโครงการเริ่มขึ้น จากการประชุมต่างๆหลายๆครั้ง ทำให้รู้สึกว่าการจะจัดทำโครงการอะไรที่เป็นทางการ และเป็นการจัดอย่างมีระบบนั้น มีขั้นตอนที่ยุ่งยาก และด้วยจากตัวงานเอง เป็นเนื้อหาทางด้านการศึกษาจึงมีข้อกังวลว่าจะไม่มีผู้สนใจงานนิทรรศการดังกล่าว จากปัญหาต่างๆที่ได้เกิดขึ้นระหว่างการเตรียมงาน ล้วนเป็นการฝึกประสบการณ์ใหม่ที่ไม่เคยได้ทำมาก่อน นิทรรศการครั้งนี้ เป็นนิทรรศการจัดขึ้นในร่ม ชั่วคราว
 เมื่อวันที่ 15-16 สิงหาคม 2556


               การจัดนิทรรศการในครั้งนี้ ได้รับหน้าที่เป็นสมาชิกอยู่ในกลุ่มของการศึกษาโทรทัศน์ทางไกล การที่มีหน้าที่จะต้องถ่ายทอดความรู้ให้กับผู้เข้าชมนิทรรศการนั้น ทำให้ต้องทบทวนความรู้ทั้งหมดที่ได้ศึกษามาทั้งในและนอกชั้นเรียน เพื่อที่จะต้องทำให้ผู้เข้าชมนิทรรศการได้รับความรู้อย่างเต็มที่ เมื่อได้รับหน้าที่ต่างๆมาแล้วจากที่การจัดงานในครั้งนี้เป็นงานที่ค่อนข้างมีระบบ มีขั้นตอน จึงทำให้ต้องมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่มากขึ้น เพราะทุกอย่างจะมีเวลา และมาตรฐานของงานนั้นๆกำหนดไว้

 จะต้องรับผิดชอบและส่งงานให้ทันกำหนด ที่สำคัญเนื่องจากงานนี้มีผู้รับผิดชอบงานหลายส่วน การประชุมงานในแต่ละครั้ง ทุกๆส่วนจะต้องแสดงความคืบหน้าของงานของตนเพื่อทำให้ส่วนอื่นๆได้รู้แนวทาง และความก้าวหน้า จะทำให้การทำงานมีระบบ และรวดเร็วยิ่งขึ้น
             




               เมื่องานนิทรรศการสิ้นสุดลง ส่วนแต่ละส่วนได้มีการสรุปผลของส่วนของตน ความสำเร็จ ปัญหา ข้อดี ข้อเสียต่างๆ เพื่อได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน ส่วนใดมีข้อบกพร่อง และมีใครที่มีวิธีแก้ไข แนะนำ ก็สามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้จนหาวิธีที่ดีที่สุด



 การจัดนิทรรศการในครั้งนี้ได้ให้ประสบการณ์ที่ดีในหลายๆด้าน เช่น ความรับผิดชอบ การทำงานกับส่วนรวม การทำหน้าที่เพื่อส่วนรวม การจัดทำเอกสารอย่างมีขั้นตอน เป็นต้น ประสบการณ์ต่างๆเหล่านี้ จะเป็นผลดีในอนาคต  อะไรก็ตามที่มีประสบการณ์มาก่อนนั้น การทำเช่นนั้นในครั้งต่อไป มักจะดีขึ้นเสมอ

โฉมหน้าผู้อยู่เบื้องหลังการทำงานแห่งความสำเร็จทั้งหมด "ขอบคุณครับ"


12 มี.ค. 2556

“อารัญ” ความสำเร็จจากความพยายาม อีกหนึ่งความภูมิใจ


อารัญความสำเร็จจากความพยายาม  อีกหนึ่งความภูมิใจ








วันหนึ่ง ได้รับมอบหมายงานกลุ่ม ในทำนิตยาสาร กลุ่มละหนึ่งเล่ม โอ้ววว มันน่าสนุกดีนะ แต่พอได้รู้ว่า ต้องทำกับเพื่อนกลุ่มใหม่ ที่จับกลุ่มมาจากการจับสลาก เอาแล้วสิ เมื่อได้รับรู้ว่าไม่ได้อยู่กลุ่มเพื่อนที่สนิท ก็เริ่มที่จะมืดมน ไปทุกด้าน ด้วยความคิดที่ว่า จะคุยกันรู้เรื่องไหม ใครจำหน้าที่อะไร และใครถนัดด้านไหน
               
         แต่เมื่อเริ่มคุยกัน นัดกันมาวางแผนงานต่างๆ ก็เริ่มเข้าใจในการทำงานของเพื่อนกลุ่มนี้ ซึ่งอาจจะไม่ต้องพูดกันมาก แต่สามารถแบ่งงานกันได้อย่างลงตัว หลังจากการวางแผนแล้ว ก็เริ่มค้นหาข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับ ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร เพื่อจะทำให้เวลาที่ไปถึง ไม่ต้องเสียเวลา
                
         เมื่อถึงวันที่ออกเดินทางไปหาข้อมูลที่ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร สมาชิกทุกคนมาอย่างพร้อมเพรียง ทุกๆคนพร้อมใจทำงาน เมื่อไปถึง ก็ไม่มีช้า ไม่ลีลา เริ่มทำตามแผนที่วางไว้ โดยเริ่มสัมภาษณ์ และไปสู่การถ่ายสินค้า และอื่นๆมากมาย รู้สึกประทับใจเพื่อนๆ ที่ทุ่มเทอย่างมาก เหนื่อย แต่ไม่ท้อ ทุกคนตั้งใจทำหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มที่
               
         และช่วงเวลาสำคัญ คือช่วงที่จะต้องนำข้อมูลมาเรียบเรียง ให้อ่านแล้วน่าสนใจ ในส่วนนี้เอง ที่ผมค่อนข้างมีปัญหา ไม่สามารถเรียบเรียงได้สระสรวยพอที่จะทำให้ผู้อ่านสนใจได้ จึงต้องแก้ไขกันอยู่หลายรอบ และให้สมาชิกช่วยอีกทีหนึ่ง ช่วงนี้เพื่อนๆทุ่มเท  เวลา แรงกาย แรงใจ ให้กับ อารัญ นิตยาสารเล่มแรกเล่มนี้อย่างมาก เพราะเป็นช่วงที่สำคัญที่สุด ทั้งในด้านการเรียบเรียงข้อมูล การจัดวางกราฟฟิกต่างๆ เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้นิตยาสาร ดูน่าสนใจ
           
         ในการทำนิตยาสารครั้งนี้ ผมได้รับหน้าที่เป็นช่างภาพ เกิดปัญหาขึ้นอยู่พอสมควร เนื่องจาก ลักษณะของชิ้นงานที่ถ่ายนั้น เป็นชิ้นงานที่ค่อนข้างเล็ก ซึ่งผมเอง ไม่เคยมีประสบการณ์ในการถ่ายชิ้นงานลักษณะนี้ จึงทำให้ภาพออกมาไม่สวยเท่าที่ควร
               
         ประสบการณ์ในครั้งนี้ ถือเป็นประสบการณ์ที่มีค่ามาก เป็นการทำงานที่ต้องใช้ความรู้หลายด้าน ฝึกการทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างดี มีทักษะในการถ่ายภาพมากขึ้น และผม จะนำประสบการณ์นี้ไปใช้ในอนาคตต่อไป 

Prometheu : โพรมีธีอูส


Prometheu : โพรมีธีอูส





         โปสเตอร์นี้ถูกจัดทำขึ้น เพื่อเป็นการนำเสนอภาพยนตร์ 

เป็นการสร้างสรรค์ผลงานที่เยี่ยมยอดมากๆครับ

หลายท่านอาจไม่รู้จักภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่เมื่อท่านได้ลอง

สัมผัสความรู้สึก ที่ได้รับผ่านทางโปสเตอร์ของภาพยนตร์นี้

ท่านจะรู้สึก อยากรู้ อยากค้นหากับภาพยนตร์เรื่องนี้

มากขึ้นเยอะเลยทีเดียว

         ภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นภาพยนตร์แนวลึกลับ

เป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งมีชีวิตต่างดาว ที่รู้จักกันว่า เอเลี่ยน

   การดำเนินเรื่อง ค่อนข้างเป็นไปอย่างตื่นเต้น น่าติดตาม มี

เทคโนโลยีต่างๆในเนื้อเรื่องที่น่าสนใจ รวมทั้งเทคนิคการ

ถ่ายทำที่เมื่อดูแล้วน่าสนใจมาก
               


สาเหตุที่เลือก

        Prometheu : โพรมีธีอูส เป็นโปสเตอร์หนึ่งในใจที่ผมชอบเป็นการส่วนตัว และที่สำคัญ เป็นโปสเตอร์ที่ได้รับการจัดอันดับมาจากเว็บ Yahoo!.com ว่าเป็น 10 อันดับโปสเตอร์ยอดเยี่ยมแห่งปี 2012  การใช้ภาพ แสง สี ที่อยู่ในโทนมืด ทำให้รู้สึกลึกลับน่าค้นหา และน่าติดตาม หมอกควันหนาที่ถูกไฟฉายส่องออกไป ทำให้รับรู้ถึงการผจญภัยในภูมิอากาศที่สุดแสนจะเยือกเย็น มีเงามืดด้านหน้าเป็นลักษณะ ศรีษะมนุษย์ขนาดใหญ่ ซึ่งหมายถึงการเริ่มต้นของการผจญภัย ได้เริ่มขึ้นแล้ว ที่สำคัญ ตัวอักษรต่างๆ ถูกจัดวางอย่างเหมาะสม ไม่รบกวนภาพ ที่เป็นสิ่งที่ต้องการจะสื่อให้ผู้ชมได้รับความรู้สุกที่ถูกถ่ายทอดออกมา และเนื้อเนื่องตรงกับอารมณ์ ความรู้สึก ที่ได้รับจากโปสเตอร์ของภาพยนตร์ ถือเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ที่ดีมาก สามารถนำให้ผู้อ่าน ผู้พบเห็น เข้าใจจุดประสงค์ที่ต้องการสื่อได้อย่างยอดเยี่ย


30 ธ.ค. 2555

สื่อสิ่งพิมพ์ = อิทธิพล


ตัวอักษร รูปภาพ หรือที่เรียกกันว่า “สื่อสิ่งพิมพ์”  มีอิทธิพลต่อที่เราเรียกเราได้อย่างไร

                                                                             





ผมจะขอกล่าวถึงสื่อสิ่งพิมพ์ประเภทหนังสือพิมพ์นะครับ ในปัจจุบันไม่มีใครปฏิเสธแน่นอนว่าไม่อ่านหนังสือพิมพ์ เพราะไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ตาม มักมีหนังสือพิมพ์บริการให้เราอ่านๆเวลาพักผ่อน เวลาว่างอยู่เสมอ

รู้ไหมครับว่าหนังสือพิมพ์นั้น มีอิทธิพลต่อเรา และสังคมอย่างไรบ้าง ?

หนังสือพิมพ์เป็นหน่วยหนึ่งของสังคม ก็จำเป็นที่จะต้องใส่ความเคลื่อนไหวของสังคม และข้อเท็จจริงต่างๆในสังคมนั้น สื่อออกมาในรูปแบบของตัวหนังสือ และรูปภาพ






ดังนั้น หนังสือพิมพ์ก็คือสื่อมวลชนชนิดหนึ่งที่เผยแพร่ข่าวสารความรู้ ความคิด และความบันเทิงไปสู่ประชาชน หนังสือพิมพ์ที่ดีมีคุณภาพ ก็จะมีส่วนในการยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนให้สูงขึ้น และหนังสือพิมพ์ที่ไร้คุณภาพก็จะฉุดประชาชนและสังคมให้ตกต่ำลง
 อิทธิพลของหนังสือพิมพ์
                
           ผมจะขอแบ่งออกเป็นสองด้าน คือ

               
อิทธิพลในด้านบวก
1. หนังสือพิมพ์เป็นเครื่องมือสื่อสารของสังคม ซึ่งช่วยให้ประโยชน์ทางการศึกษา รู้ทันเหตุการณ์ ทำให้คนเกิดความรู้กว้างขวาง
2. ช่วยทำหน้าที่เป็นสื่อบันทึกภาพสังคม ค่านิยม วัฒนธรรม ความเชื่อถือ ตลอดจนชีวิตความเป็นอยู่3. ช่วยในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ข่าวสารทั้งในภาคธุรกิจเอกชนและภาครัฐบาล
4. เป็นสื่อในการช่วยเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ และความเสมอภาคเพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงสังคมไปในวิถีทางที่ถูกต้องยุติธรรม
5. ช่วยเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร ที่เป็นข้อเท็จจริง
        

         
อิทธิพลในด้านลบ
1. สามารถโน้มน้าว สร้างความเชื่อที่ไม่ถูกต้องได้
2. เนื้อหาสาระที่เผยแพร่ออกไป อาจมีความรุนแรง ไม่เหมาะสมกับเยาวชนที่ยังไม่สามารถ
ใช้วิจรณญาณในการอ่านได้เท่าที่ควร
3. อาจก่อให้สังคมเกิดความตระหนก ตื่นกลัวจากเหตุการณ์ต่างๆที่เผยแพร่ออกไป
4. ก่อให้เกิดการละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคลในการเผยแพร่สารได้




ตัวอย่าง อิทธิพลของหนังสือพิมพ์ ที่สร้างความเดือดร้อน หรือละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น

เรื่องนั้นมีอยู่ว่า


              เมื่อวันที่ 18 ก.ย.2555 มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ได้ส่งหนังสือถึง นายสราวุธ วัชรพล หัวหน้ากองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ซึ่งทางหนังสือพิมพ์ไทยรัฐได้เผยแพร่ข่าวพร้อมการพาดหัวว่า “93 โจรใต้มอบตัว มีเพียง 3 ราย โดยดำเนินคดีอาญา” แต่ปรากฎว่าหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ กลับนำภาพกิจกรรมในวันที่ 15 ก.ย.2555 ที่ตัวแทนเครือข่ายจำเลยคดีความมั่นคงและประชาชนที่ได้รับผลกระทบเดินทางไปยังศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม  ซึ่งไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดกับข่าว “93 โจรใต้มอบตัว มีเพียง 3 ราย โดยดำเนินคดีอาญา


(ภาพข่าวที่มูลนิธิผสานวัฒนธรรม บอกว่า หนังสือพิมพ์ไทยรัฐลงผิด เมื่อวันที่ 17 ก.ย.2555)

                 การนำเสนอข่าวสารผ่านช่องทางหนังสือพิมพ์ควรตรวจสอบให้ถูกต้อง เนื่องจากเนื้อหาของข่าว หรือรูปภาพของข่าวที่เป็นเท็จนั้น อาจนำไปสู่การลิดรอนสิทธิของผู้อื่นได้ สร้างความเสียหายให้กับของผู้เสียหาย อาจสร้างความเข้าใจผิด ทำให้เกิดปัญหาต่างๆตามมามากมาย  

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ได้ทราบอิทธิพลด้านบวก และด้านลบของหนังสือพิมพ์กันไปแล้ว เราจะเห็นได้ว่า หนังสือพิมพ์เป็นสื่อที่เข้าถึงได้ง่าย จึงเป็นสิ่งที่รัฐบาลจำเป็นต้องเอาใจใส่ สอดส่องดูแล และควบคุม เพราะหนังสือพิมพ์สามารถที่จะปลุกระดม แทรกซึม โน้มน้าวให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางความคิด เจตคติ และพฤติกรรม หรือจริยธรรมของสังคมได้มาก ซึ่งอาจนำไปในทางสร้างสรรค์หรือทำลายก็ได้ 

6 ธ.ค. 2555

ก้าวสู่ความลับ



หากจะพูดถึงสายลับคนดังอย่าง เจมส์ บอนด์ ในนาทีนี้ คงจะไม่มีใครไม่รู้จักชื่อของเขาอย่างแน่นอน ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกถ่ายทำอย่างต่อเนื่องมาจนถึงภาคที่ 23 ในชื่อเรื่องว่า SKYFALL 007 พลิกรหัสพยัคฆ์ร้าย


ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์แนวสืบสวน สอบสวน เกี่ยวกับการสืบคดี ตามล่าหาตัวผู้ร้าย การปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานสืบราชการลับ ตัวโปสเตอร์ภาพยนตร์ที่ถูกถ่ายทอดออกมาจึงเป็นโทนสีขาว-ดำ ซึ่งให้ความรู้สึกลึกลับและน่าค้นหา
การจัดวางมีความเรียบง่าย เน้นที่ตัวเอกของเรื่องให้อยู่ตรงกลาง เมื่อมองแล้วก็สามารถรู้สึกได้ถึงความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวที่สื่อผ่านออกมาทางสีหน้าและแววตาของตัวละคร ฉากหลังเปรียบเสมือนอุโมงค์ขนาดใหญ่ ที่อาจจะมีความหมายอีกนัยหนึ่งคือ การแก้ปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ซึ่งต้องใช้ความเพียรพยายาม และความอดทน ถึงแม้ว่าปัญหาและอุปสรรคเหล่านั้นจะยากเย็นเพียงไหน เหมือนดังเช่นอุโมงค์ที่ทอดยาว ไม่มีทางรู้ว่าอีกไกลแค่ไหนถึงจะพบทางออก แต่หากมีความมุ่งมั่นอดทน ก็ย่อมที่จะประสบผลสำเร็จและพบเจอจุดหมายปลายทางที่หวังไว้อย่างแน่นอน
ตัวอักษรที่นำมาใส่เป็นชื่อเรื่อง มีความพอดีและลงตัว ทั้งด้านการจัดวาง ขนาด และการเลือกใช้สี โดยเฉพาะกับการมีลูกเล่นเล็กน้อย คือการมีสะเก็ดฝุ่นสีดำอยู่บนตัวอักษรสีขาว ทำให้ชื่อเรื่องเกิดความน่าสนใจ เพราะเนื้อหาในเรื่อง การจะตามล่าสืบคดี จะต้องมีการต่อสู้ที่อาจจะมีการเปื้อนฝุ่นหรืออะไรต่างๆ อาจจะเป็นการสื่อความหมายอีกอย่างหนึ่ง และคำว่า 007 ด้านล่าง ก็เป็นรายละเอียดที่ผมชอบมาก เพราะหลังเลข 7 จะมีสัญลักษณ์อย่างหนึ่งที่เมื่อลองมองดีดีแล้ว จะเห็นว่าเป็นรูปปืนนั่นเอง ซึ่งปืนนี้ ถือได้ว่าเป็นอาวุธหลักของตัวเอกในภาพยนตร์ ถือได้ว่าเป็นการเสริมให้ตัวอักษรธรรมดาๆ ดูโดดเด่นขึ้นมาในอีกลักษณะหนึ่งได้เป็นอย่างดี





          ผมคิดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้คงเป็นภาพยนตร์ที่อยู่ในใจของคนหลายๆคนมายาวนาน เพราะภาคที่ 23 นี้ เป็นภาคที่ทำขึ้นมาฉลองครบรอบ 50 ปี ถือได้ว่าเป็นระยะเวลาที่ยาวนานมาก หากแต่ถ้ามีเพียงเนื้อเรื่องอย่างเดียว ไม่มีสื่อสิ่งพิมพ์ใดๆมาช่วยเสริม ก็อาจจะทำให้ผู้ชมไม่สามารถรับรู้ถึงอารมณ์ของภาพยนตร์ได้ โปสเตอร์จึงเป็นสื่อสิ่งพิมพ์อย่างหนึ่งที่เป็นส่วนประกอบที่สามารถนำพาภาพยนตร์ให้เป็นที่รู้จัก และติดตาตรึงใจผู้ชมได้เป็นอย่างดี

ผู้ติดตาม