สื่อสิ่งพิมพ์ = อิทธิพล

ตัวอักษร รูปภาพ หรือที่เรียกกันว่า “สื่อสิ่งพิมพ์”  มีอิทธิพลต่อที่เราเรียกเราได้อย่างไร

                                                                             

ผมจะขอกล่าวถึงสื่อสิ่งพิมพ์ประเภทหนังสือพิมพ์นะครับ ในปัจจุบันไม่มีใครปฏิเสธแน่นอนว่าไม่อ่านหนังสือพิมพ์ เพราะไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ตาม มักมีหนังสือพิมพ์บริการให้เราอ่านๆเวลาพักผ่อน เวลาว่างอยู่เสมอ

รู้ไหมครับว่าหนังสือพิมพ์นั้น มีอิทธิพลต่อเรา และสังคมอย่างไรบ้าง ?

หนังสือพิมพ์เป็นหน่วยหนึ่งของสังคม ก็จำเป็นที่จะต้องใส่ความเคลื่อนไหวของสังคม และข้อเท็จจริงต่างๆในสังคมนั้น สื่อออกมาในรูปแบบของตัวหนังสือ และรูปภาพ

ดังนั้น หนังสือพิมพ์ก็คือสื่อมวลชนชนิดหนึ่งที่เผยแพร่ข่าวสารความรู้ ความคิด และความบันเทิงไปสู่ประชาชน หนังสือพิมพ์ที่ดีมีคุณภาพ ก็จะมีส่วนในการยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนให้สูงขึ้น และหนังสือพิมพ์ที่ไร้คุณภาพก็จะฉุดประชาชนและสังคมให้ตกต่ำลง

 อิทธิพลของหนังสือพิมพ์

                

           ผมจะขอแบ่งออกเป็นสองด้าน คือ

               

อิทธิพลในด้านบวก
1. หนังสือพิมพ์เป็นเครื่องมือสื่อสารของสังคม ซึ่งช่วยให้ประโยชน์ทางการศึกษา รู้ทันเหตุการณ์ ทำให้คนเกิดความรู้กว้างขวาง

2. ช่วยทำหน้าที่เป็นสื่อบันทึกภาพสังคม ค่านิยม วัฒนธรรม ความเชื่อถือ ตลอดจนชีวิตความเป็นอยู่3. ช่วยในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ข่าวสารทั้งในภาคธุรกิจเอกชนและภาครัฐบาล

4. เป็นสื่อในการช่วยเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ และความเสมอภาคเพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงสังคมไปในวิถีทางที่ถูกต้องยุติธรรม

5. ช่วยเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร ที่เป็นข้อเท็จจริง

        

         

อิทธิพลในด้านลบ

1. สามารถโน้มน้าว สร้างความเชื่อที่ไม่ถูกต้องได้

2. เนื้อหาสาระที่เผยแพร่ออกไป อาจมีความรุนแรง ไม่เหมาะสมกับเยาวชนที่ยังไม่สามารถ

ใช้วิจรณญาณในการอ่านได้เท่าที่ควร

3. อาจก่อให้สังคมเกิดความตระหนก ตื่นกลัวจากเหตุการณ์ต่างๆที่เผยแพร่ออกไป

4. ก่อให้เกิดการละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคลในการเผยแพร่สารได้

ตัวอย่าง อิทธิพลของหนังสือพิมพ์ ที่สร้างความเดือดร้อน หรือละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น

เรื่องนั้นมีอยู่ว่า

              เมื่อวันที่ 18 ก.ย.2555 มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ได้ส่งหนังสือถึง นายสราวุธ วัชรพล หัวหน้ากองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ซึ่งทางหนังสือพิมพ์ไทยรัฐได้เผยแพร่ข่าวพร้อมการพาดหัวว่า “93 โจรใต้มอบตัว มีเพียง 3 ราย โดยดำเนินคดีอาญา” แต่ปรากฎว่าหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ กลับนำภาพกิจกรรมในวันที่ 15 ก.ย.2555 ที่ตัวแทนเครือข่ายจำเลยคดีความมั่นคงและประชาชนที่ได้รับผลกระทบเดินทางไปยังศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม  ซึ่งไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดกับข่าว “93 โจรใต้มอบตัว มีเพียง 3 ราย โดยดำเนินคดีอาญา”

(ภาพข่าวที่มูลนิธิผสานวัฒนธรรม บอกว่า หนังสือพิมพ์ไทยรัฐลงผิด เมื่อวันที่ 17 ก.ย.2555)

                 การนำเสนอข่าวสารผ่านช่องทางหนังสือพิมพ์ควรตรวจสอบให้ถูกต้อง เนื่องจากเนื้อหาของข่าว หรือรูปภาพของข่าวที่เป็นเท็จนั้น อาจนำไปสู่การลิดรอนสิทธิของผู้อื่นได้ สร้างความเสียหายให้กับของผู้เสียหาย อาจสร้างความเข้าใจผิด ทำให้เกิดปัญหาต่างๆตามมามากมาย  

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ได้ทราบอิทธิพลด้านบวก และด้านลบของหนังสือพิมพ์กันไปแล้ว เราจะเห็นได้ว่า หนังสือพิมพ์เป็นสื่อที่เข้าถึงได้ง่าย จึงเป็นสิ่งที่รัฐบาลจำเป็นต้องเอาใจใส่ สอดส่องดูแล และควบคุม เพราะหนังสือพิมพ์สามารถที่จะปลุกระดม แทรกซึม โน้มน้าวให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางความคิด เจตคติ และพฤติกรรม หรือจริยธรรมของสังคมได้มาก ซึ่งอาจนำไปในทางสร้างสรรค์หรือทำลายก็ได้ 

ก้าวสู่ความลับ

หากจะพูดถึงสายลับคนดังอย่าง เจมส์ บอนด์ ในนาทีนี้ คงจะไม่มีใครไม่รู้จักชื่อของเขาอย่างแน่นอน ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกถ่ายทำอย่างต่อเนื่องมาจนถึงภาคที่ 23 ในชื่อเรื่องว่า SKYFALL 007 พลิกรหัสพยัคฆ์ร้าย

ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์แนวสืบสวน สอบสวน เกี่ยวกับการสืบคดี ตามล่าหาตัวผู้ร้าย การปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานสืบราชการลับ ตัวโปสเตอร์ภาพยนตร์ที่ถูกถ่ายทอดออกมาจึงเป็นโทนสีขาว-ดำ ซึ่งให้ความรู้สึกลึกลับและน่าค้นหา

การจัดวางมีความเรียบง่าย เน้นที่ตัวเอกของเรื่องให้อยู่ตรงกลาง เมื่อมองแล้วก็สามารถรู้สึกได้ถึงความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวที่สื่อผ่านออกมาทางสีหน้าและแววตาของตัวละคร ฉากหลังเปรียบเสมือนอุโมงค์ขนาดใหญ่ ที่อาจจะมีความหมายอีกนัยหนึ่งคือ การแก้ปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ซึ่งต้องใช้ความเพียรพยายาม และความอดทน ถึงแม้ว่าปัญหาและอุปสรรคเหล่านั้นจะยากเย็นเพียงไหน เหมือนดังเช่นอุโมงค์ที่ทอดยาว ไม่มีทางรู้ว่าอีกไกลแค่ไหนถึงจะพบทางออก แต่หากมีความมุ่งมั่นอดทน ก็ย่อมที่จะประสบผลสำเร็จและพบเจอจุดหมายปลายทางที่หวังไว้อย่างแน่นอน

ตัวอักษรที่นำมาใส่เป็นชื่อเรื่อง มีความพอดีและลงตัว ทั้งด้านการจัดวาง ขนาด และการเลือกใช้สี โดยเฉพาะกับการมีลูกเล่นเล็กน้อย คือการมีสะเก็ดฝุ่นสีดำอยู่บนตัวอักษรสีขาว ทำให้ชื่อเรื่องเกิดความน่าสนใจ เพราะเนื้อหาในเรื่อง การจะตามล่าสืบคดี จะต้องมีการต่อสู้ที่อาจจะมีการเปื้อนฝุ่นหรืออะไรต่างๆ อาจจะเป็นการสื่อความหมายอีกอย่างหนึ่ง และคำว่า 007 ด้านล่าง ก็เป็นรายละเอียดที่ผมชอบมาก เพราะหลังเลข 7 จะมีสัญลักษณ์อย่างหนึ่งที่เมื่อลองมองดีดีแล้ว จะเห็นว่าเป็นรูปปืนนั่นเอง ซึ่งปืนนี้ ถือได้ว่าเป็นอาวุธหลักของตัวเอกในภาพยนตร์ ถือได้ว่าเป็นการเสริมให้ตัวอักษรธรรมดาๆ ดูโดดเด่นขึ้นมาในอีกลักษณะหนึ่งได้เป็นอย่างดี

          ผมคิดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้คงเป็นภาพยนตร์ที่อยู่ในใจของคนหลายๆคนมายาวนาน เพราะภาคที่ 23 นี้ เป็นภาคที่ทำขึ้นมาฉลองครบรอบ 50 ปี ถือได้ว่าเป็นระยะเวลาที่ยาวนานมาก หากแต่ถ้ามีเพียงเนื้อเรื่องอย่างเดียว ไม่มีสื่อสิ่งพิมพ์ใดๆมาช่วยเสริม ก็อาจจะทำให้ผู้ชมไม่สามารถรับรู้ถึงอารมณ์ของภาพยนตร์ได้ โปสเตอร์จึงเป็นสื่อสิ่งพิมพ์อย่างหนึ่งที่เป็นส่วนประกอบที่สามารถนำพาภาพยนตร์ให้เป็นที่รู้จัก และติดตาตรึงใจผู้ชมได้เป็นอย่างดี

หนังสือเล่มนี้ อ่านแล้วดีนะครับ !!

ตัวผมเองนั้นเป็นคนที่ไม่ชอบอ่านหนังสือสักเท่าไร เพราะอ่านได้ไม่นาน ก็จะเกิดอาการง่วงนอนอย่างบอกไม่ถูก ช่วงเวลาที่ผมจะหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านสักเล่มหนึ่งนั้น ก็คงเป็นช่วงเวลาค่ำคืนใดค่ำคืนหนึ่งที่เกิดอาการนอนไม่หลับนั่นแหละครับ เพราะพอผมอ่านไปได้ไม่เกินสามหน้า หนังตาของผมก็ปิดลงทันที เมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ก็เป็นเวลาเช้าที่ต้องตื่นนอนซะแล้ว

 แต่ก็ไม่ใช่ว่าผมจะไม่เคยหยิบหนังสือสักเล่มหนึ่งขึ้นมาอ่านซะเมื่อไร เมื่อเร็วๆนี้ ผมได้รู้จักหนังสือเล่มหนึ่ง ซึ่งผมบังเอิญไปเจอในบ้านของญาติ เป็นหนังสือที่ค่อนข้างเก่า ด้วยเนื้อกระดาษที่บางกรอบ และปี พ.ศ. ที่พิมพ์ ก็พอจะบ่งบอกได้ถึงอายุการใช้งาน แต่ชื่อหนังสือและรายละเอียดเนื้อหาภายในเล่ม กลับไม่ได้เก่าไปตามสภาพภายนอกเลย           ณ ขณะนั้น ผมก็ไม่รู้ว่ามีอะไรมาดลใจ ผมจึงค่อยๆเปิดหนังสืออ่านอย่างไม่ลังเลใจ

หนังสือเล่มนี้มีชื่อว่า หนังสือ “ช่างคิด” โดยสมาคมผู้กำกับศิลป์บางกอก เป็นหนังสือที่รวบรวมเอาบุคคลที่สำคัญในวงการโฆษณา 23 ท่าน มาเปิดเผยเคล็ดลับเกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์ ทั้งวิธีคิด กระบวนการคิด รวมไปถึงผลงานที่สำเร็จออกมาสู่สายตาของคนทั้งประเทศ

ภายในเล่ม เป็นการสัมภาษณ์แนวความคิดของบุคคลท่านต่างๆ ซึ่งมีทั้งที่ผมรู้จัก และไม่รู้จัก เมื่อได้อ่านไปเรื่อยๆ ก็ทำให้ได้ข้อคิดหลายๆอย่าง และไอเดียมากมายที่เราอาจจะคิดไม่ถึง ผมรู้สึกชื่นชมบุคคลเหล่านี้ทุกท่าน ที่ล้วนแต่มีแนวคิดและความสร้างสรรค์ที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้อ่านที่สามารถนำไปใช้ได้จริง และเมื่อได้อ่านประวัติของแต่ละท่านแล้ว ก็ทำให้ผมได้รู้ว่า ถึงเราจะไม่ได้มีการศึกษาที่สูงมาก หรืออาจจะทำงานไม่ตรงกับสายการศึกษา แต่หากเรามีความพยายาม ก็จะทำให้เราสามารถประสบความสำเร็จในชีวิตได้ และแต่ละท่าน ก่อนที่จะประสบความสำเร็จ มาถึงจุดสูงสุดของชีวิต ได้รางวัลมากมายที่การันตีถึงความสามารถ ทุกท่านก็เริ่มจากจุดเล็กๆกันมาก่อนทั้งนั้น ทำให้ผมรู้สึกมีกำลังใจขึ้นมาก ถึงแม้ว่าตัวผมจะยังไปไม่ถึงจุดนั้น แต่ก็ทำให้ผมมีแรงบันดาลใจในการก้าวเดินไปตามความฝันมากขึ้น

“คิดเสมอว่า โฆษณา ต้องง่ายแต่ไม่โง่

 คิดเสมอว่า โฆษณา ต้องแปลกตาแต่ไม่แปลกใจ

 คิดเสมอว่า โฆษณา ทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย ไม่ใช่เรื่องง่ายให้ยากกว่าเดิม”

แนวคิดของคุณวิบูลย์ ลีภักดิ์ปรีดา ประธานบริหารฝ่ายสร้างสรรค์ บริษัท มันเดย์ จำกัด คือตัวอย่างบทความภายในหนังสือเล่มนี้ที่ผมยกมาให้อ่าน ถึงจะเป็นแค่ประโยคง่ายๆสั้นๆ แต่เมื่ออ่านดีๆ จะเห็นได้ว่าเป็นการสอนเราไปในตัว ซึ่งบทความนี้เกี่ยวกับในด้านของคนทำโฆษณา และผมก็มีความสนใจด้านนี้อยู่บ้าง เมื่ออ่านจบ ผมก็ย้อนคิดไปถึงโฆษณาหลายๆตัวที่ผ่านมาและเป็นที่นิยมในหมู่คนดู ว่าโฆษณาเหล่านั้น ก็เป็นไปตามแนวคิดข้างต้นนี้

http://twtrland.com/profile/abookpublishing

สุดท้ายนี้ ผมคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก ไม่มีอะไรเกินความสามารถของเรา เพียงแค่เรามีความพยายาม และมุ่งมั่นที่จะก้าวไปถึงจุดนั้น ดังเช่นบุคคลในเล่มนี้ เพียงแค่เรากล้าที่จะคิดแปลกและแตกต่าง โดยที่ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร ก็ย่อมจะทำให้เราประสบความสำเร็จ และที่สำคัญไปกว่านั้น ผมคิดว่า ตอนนี้ผมเริ่มชอบอ่านหนังสือบางเล่มเข้าแล้วล่ะครับ

สื่อเกมแสนสนุก สร้างปัญญา

สวัสดีครับ พบกับผมอีกครั้ง ครั้งนี้ผมมีสื่อการเรียนการสอนดีๆ มีความรู้ มาแนะนำเพื่อนๆกันครับ

ก่อนอื่นเลย ขอแนะนำสถานที่ที่นำสื่อมาแนะนำนะครับ 

อยู่ที่ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ห้อง 805

สื่อการเรียนการสอน มีบทบาทอย่างมากในปัจจุบัน ในทุกช่วงการศึกษา เนื่องจากประโยชน์ที่ได้รับจากสื่อการเรียนการสอนนั้น มีมากมาย เช่น สามารถทำให้ผู้เรียนสนใจการเรียนการสอน ลดความเครียดในชั้นเรียน ทำช่วยให้ผู้เรียนให้เรียนรู้จากสิ่งใหม่ๆ ไม่ใช่จากตัวหนังสือเพียงอย่างเดียว

สื่อการเรียนการสอนที่ผมเลือกมาในครั้งนี้ เป็น เกม DOMINO เกมนี้จะมาสร้างปัญญาได้อย่างไร
ผมจะเริ่มแนะนำให้ทราบกันนะครับ

อุปกรณ์การเล่นต่างๆ

กล่องบรรจุอุปกรณ์การเล่น

วิธีการเล่นเกม DOMINO ใต้ฝา รายละเอียดชัดดเจน

อุปกรณ์การเล่นทั้งหมด รวมทั้งชิ้นส่วน DOMINO

วิธีการเล่น

1. ให้ผู้เล่นนั่งเป็นวงกลม
2. แจกโดมิโนให้นักเรียนแต่ละคน ซึ่งจำนวนที่จะได้รับนั้น แจกเท่าไหร่ก็ได้จากการกำหนดในแต่ละครั้ง
3. คว่ำโดมิโนที่เหลือ แล้ววางหนึ่งชิ้น โดยให้ผู้เล่นคนแรกที่เริ่มเล่นเกม จะต้องต่อโดมิโนของตัวเอง ที่ตรงกับโดมิโนที่     กำหนดมาให้ เช่น ถ้าได้โดมิโนมีคำว่า pig กับรูป แมว ผู้เล่นจะต้องมีคำว่า cat หรือว่ารูปหมู
4. ผู้เล่นคนต่อไป ก็จะต้องวางโดมิโนของตัวเองให้ตรงกับโดมิโนที่วางอยู่ โดยวางต่อชิ้นสุดท้ายของแต่ละข้าง
5. เล่นไปเรื่อยๆ ผู้เล่นคนใดหมดก่อนเป็นผู้ชนะ

ประโยชน์ที่ผู้เล่นได้รับ

1. ผู้เล่นได้รู้ศัพท์ภาษาอังกฤษ
2. ทำให้ผู้เล่นมีสมาธิมากขึ้น
3.ใช้สื่อเป็นกิจกรรมในชั้นเรียนภาษาอังกฤษได้
4. ใช้้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์
5.ลดความเบื่อหน่ายจากการเรียนแบบนั่งท่องจำ


ต่อจากนี้ไป ผมจะแนะนำวิธีการเล่นเกมนี้ อย่างสั้นๆ กระชับๆ ให้ได้รับชมกันนะครับ

ขอบคุณครับที่ติดตามอ่านบลอคของผม
หวังว่าคงได้รับความรู้กันไปปไม่มากก็น้อยนะครับ
สามารถติชมได้ตามสบายเลยครับ

การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 และ แผ่น VCD เพื่อการศึกษา

http://www.teenpath.net/content.asp?ID=15166#.UCupDqmTsmU

รูปภาพที่เห็นอยู่นี้ คือ หนังสือ “ทักษะแห่งอนาคตใหม่: การศึกษาเพื่อศตวรรษที่ 21” ซึ่งภายในเล่มมีเนื้อหาสาระสำคัญเกี่ยวกับการศึกษายุคใหม่ ที่แตกต่างไปจากแนวคิดเดิมๆ อีกทั้งยังจะเป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้ผู้อ่านทุกท่านได้ช่วยกันขับเคลื่อนการศึกษาไทยออกไปจากความเชื่อหรือวิธีคิดเก่าๆ เพื่อให้การเรียนรู้ในสังคมไทยบรรลุการเรียนรู้ทักษะสำหรับมนุษย์ในศตวรรษที่ 21

โดยส่วนตัวของผมเองนั้น สนใจหนังสือเล่มนี้อยู่มิใช่น้อย ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกของหนังสือที่สามารถดึงดูดใจได้เป็นอย่างดี เมื่อมารวมกับสีสัน รูปภาพ และองค์ประกอบทั้งหมดที่อยู่บนปกหนังสือ ก็ทำให้อยากที่จะลองทำความเข้าใจ และอ่านดูสักครั้ง แต่ด้วยข้อจำกัดในเรื่องของเวลา รวมกับความหนาของจำนวนหน้า ก็ทำให้ผมเริ่มจะท้อใจไปเล็กน้อย

แต่ความพยายามของผมก็ยังไม่สิ้นสุดซะทีเดียว ผมพยายามลองหาอ่านบทความตามอินเตอร์เน็ตในหัวข้อของ “การศึกษาในศตวรรษที่ 21” ซึ่งได้มีนักวิชาการหลายท่านแสดงความคิดเห็นไว้อย่างมากมาย ส่วนใหญ่ก็ได้อธิบายถึงความก้าวหน้าของวงการการศึกษาไทยที่ได้ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จนเรามักได้ยินคำว่า “การศึกษาจะเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง” “การศึกษาที่เท่าเทียมกัน” หรือ“ทุกคนมีโอกาสได้รับการศึกษา” อยู่บ่อยๆ ซึ่งคำเหล่านี้คืออุดมคติที่เกิดขึ้นจริงได้ เนื่องจากในศตวรรษที่21นี้เป็นยุคโลกาภิวัตน์ ยุคแห่งความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ทุกสิ่งอย่างรอบตัวจึงมีความรวดเร็ว ล้ำสมัย และสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงได้อยู่ตลอดเวลา

http://krusri.wikispaces.com/

ในด้านการศึกษา เราจะสังเกตได้ว่า จากเดิมที่เรามีคุณครูยืนอยู่หน้าชั้นเรียน คอยเขียนกระดานดำให้นักเรียนจดตาม หรือการที่คุณครูยืนพูดหน้าชั้นเรียนให้นักเรียนทั้งห้องฟัง แม้กระทั่งการสั่งงานให้นักเรียนทำลงในสมุด แล้วนำมาส่งในวันรุ่งขึ้น ล้วนแต่เป็นวิธีการเดิมที่เราปฏิบัติต่อเนื่องกันมาเป็นปกติ หากแต่ในปัจจุบัน ภาพเหล่านี้คงมีให้เห็นไม่มากนัก ก็ด้วยคำว่า “ยุคโลกาภิวัตน์” ที่ผมกล่าวไปข้างต้น ทำให้ ณ ขณะนี้ แค่เพียงกระดานดำ ชอล์ก ไม้เรียว คงไม่เพียงพอต่อการเรียนการสอนเสียแล้ว

ด้วยสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วในแต่ละวัน ทำให้ความรู้ที่คุณครูให้อาจจะไม่เพียงพอ และไม่ทันต่อสิ่งต่างๆ รวมถึงการใช้วิธีการสอนแบบเดิมอาจจะทำให้นักเรียนไม่เกิดการเรียนรู้มากเท่าที่ควร เราจึงจำเป็นต้องอาศัยเทคโนโลยีที่มีอย่างมากมายเข้ามาช่วย เพราะเทคโนโลยีต่างๆ เหล่านี้ล้วนเป็นตัวช่วยทำให้นักเรียนเกิดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่สามารถแสดงอักษร ภาพ เสียง ภาพเคลื่อนไหว รวมถึงการสร้างสถานการณ์เสมือนจริง ที่สำคัญคือ สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้ได้ โดยในปัจจุบันนี้ การนำคอมพิวเตอร์พกพาเข้ามาสืบค้นในชั้นเรียน มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะสามารถค้นหาข้อมูลตามที่ต้องการได้อย่างละเอียด กว้างขวาง สะดวก และมีความรวดเร็วอีกด้วย

http://www.nanmeebooks.com/webboard/topic_adults.php?postid=00004725&wbr_id=20

สำหรับตัวอย่างของสื่อสำหรับการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ที่ผมได้นำมายกตัวอย่าง คือ แผ่น VCD เพื่อการศึกษา ซึ่งแผ่น VCD นี้ถือได้ว่าเป็นสื่อที่มีขนาดเล็ก พกพาได้สะดวก สามารถเก็บข้อมูลได้จำนวนมาก มีวิธีการใช้ที่ง่าย และที่สำคัญมีราคาถูกอีกด้วย

แผ่น VCD เป็นแผ่นพลาสติกเคลือบที่มีลักษณะเป็นวงกลม มีช่องตรงกลางขนาด 4.8 นิ้ว หนา 1.2 มิลลิเมตร ประกอบด้วยแผ่นพลาสติกทำจากสาร Polycarbonate, สาร Aluminum ซึ่งฉีดลงบนแผ่นพลาสติก Polycarbonate ให้มีลักษณะเป็นร่องๆ, สาร Acrylic เคลือบบน Aluminum เพื่อป้องกันผิวเลเบล แผ่นซีดีโดยทั่วไปที่วางขาย จะมีความสามารถในการจัดเก็บข้อมูลขนาด 650 MB หรือ 700MB ต่อแผ่น VCD 1 แผ่น แต่ในบางร้านค้า เราก็สามารถพบเห็นแผ่น VCD ขนาดเล็ก เรียกว่า Mini VCD ซึ่งมีความจุอย่างต่ำเพียง 2 MB

ผมคิดว่าแผ่น VCD เพื่อการศึกษามีประโยชน์อย่างมาก เนื่องจากมีข้อมูลครบทั้งด้านภาพและเสียง สามารถที่จะดูซ้ำกี่รอบก็ได้ ยิ่งทำให้เรามีความเข้าใจในเนื้อหาบทเรียนมากยิ่งกว่าเดิม ซึ่งนอกจากจะเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เรียนแล้ว ก็ยังเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่คุณครูผู้สอนอีกด้วย เพราะจะช่วยในเรื่องของการลดทอนเวลาในการสอน ไม่ต้องเสียเวลาในการสอนมากนัก ไม่ต้องอธิบายซ้ำหลายๆรอบ และยังสามารถเก็บไว้ใช้ได้ในการสอนครั้งต่อไปได้โดยที่ข้อมูลไม่มีการสูญหาย

http://www.oknation.net/blog/PorDoBlog/2010/02/05/entry-1

ซึ่งการจัดทำข้อมูลเพื่อนำไปใส่ในแผ่น VCD เพื่อการศึกษานี้ ก็ทำได้โดยง่าย เพียงแค่มีไฟล์ข้อมูลที่ต้องการ จากนั้นทำการไรท์ข้อมูลลงแผ่น VCD เพียงเท่านี้ก็สามารถทำการจัดเก็บข้อมูลลงบนแผ่น VCD ได้อย่างรวดเร็ว และง่ายดาย

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าแผ่น VCD เพื่อการศึกษาจะมีข้อดีและคุณสมบัติมากมาย แต่เราก็ควรจะพิจารณาในด้านของการนำไปใช้ให้ตรงกับลักษณะการเรียนรู้ เพื่อจะได้ทำให้การเรียนรู้ของเรามีประสิทธิภาพมากที่สุด และที่สำคัญแผ่น VCD ที่มีรูปร่างบางเบา พกพาสะดวกนี้ ก็มีโอกาสแตกหักได้เช่นกันหากเราใช้อย่างไม่ระมัดระวัง ท้ายที่สุดแล้วผมคิดว่าแผ่น VCD เพื่อการศึกษานี้ ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่กำลังมองหาสื่อดีๆ ใช้งานได้อย่างสะดวกง่ายดาย เพื่อทำให้การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของคุณเป็นการเรียนรู้ที่ทันสมัย รวดเร็ว และสามารถก้าวไปพร้อมกับโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงในทุกๆวันได้อย่างดีและมีประสิทธิภาพมากที่สุดครับ

แหล่งข้อมูล

http://www.pattana.ac.th/E_book/Computer/hardware_student/CD-ROM.html

http://www.qlf.or.th/Home/Details?contentId=417

ความสำคัญของศูนย์บริการสื่อและเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษา

ที่มีต่อสถาบันการศึกษาในระดับอุดมศึกษา

http://asinap.blogspot.com/2010/08/7-ict-2020-10.html

ศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษา เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบการผลิตและจัดหาสื่อ  ต่างๆเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนซึ่งเป็นไปตามแต่ละหลักสูตร และส่งเสริมสู่ความเป็นเลิศทางวิชาการ อีกทั้งควบคุมดูแลการใช้หอประชุม ห้องประชุม ห้องบรรยายพิเศษ และห้องปฏิบัติการภาษา เพื่อสนับสนุนด้านการเรียนการสอนและการบริหารขอมหาวิทยาลัย โดยให้บริการด้านการใช้โสตทัศนูปกรณ์ประเภทต่างๆ ทั้งที่เป็นประเภทเครื่องฉาย และไม่ใช่เครื่องฉาย ให้บริการด้านการผลิตเอกสารและสิ่งพิมพ์ต่างๆ ให้บริการผลิตงานด้านกราฟิก รวมทั้งเป็นศูนย์ที่เก็บต้นฉบับงานของสื่อทุกชนิดของมหาวิทยาลัย เป็นหน่วยงานให้นิสิตสำหรับฝึกงานให้ความรู้ แนะนำวิธีใช้ ตลอดจนวิธีการดูแลรักษาสื่อชนิดต่างๆ นอกจากนี้ยังเป็นหน่วยงานที่รับงานนอกสถานที่ในเรื่องระบบ โสตทัศนูปกรณ์สำหรับบุคคลทั่วไป นำรายได้มาพัฒนาระบบต่างๆในหน่วยงาน เพื่อให้เหมาะสำหรับการเรียนรู้ และเกิดประโยชน์มากยิ่งขึ้น

ซึ่งในความคิดของผม ผมคิดว่าศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษา เป็นสถานที่ที่สามารถให้ความรู้เราได้อย่างครบถ้วน ครบวงจร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่ผมศึกษาอยู่ในเอกเทคโนโลยีสื่อสารการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒด้วยแล้วนั้น ทำให้ผมรู้สึกว่าสถานที่แห่งนี้มีความสำคัญ และเกี่ยวข้องกับผมเป็นอย่างยิ่ง การที่ได้มาอ่าน มาศึกษาศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษาของมหาวิทยาลัยต่างๆ ว่ามีการให้บริการสื่อ หรือโสตทัศนูปกรณ์อะไรบ้างนั้น ก็สามารถทำให้เราได้เรียนรู้ถึงหลักการ ความสำคัญด้านต่างๆได้เป็นอย่างดี และผมคิดว่าคงจะมีประโยชน์ต่อการศึกษา และการดำเนินชีวิตประจำวันของผมด้วย

เนื่องจากในปัจจุบันเทคโนโลยีต่างๆได้เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อชีวิตของเราเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในด้านการศึกษา การที่มีศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัย หรือสถานที่ที่เป็นแหล่งความรู้ต่างๆนั้น ก็ทำให้ผู้เรียน หรือผู้ที่ต้องการเข้ามาศึกษาหาความรู้ได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ อีกทั้งศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษาบางแห่งเป็นแบบครบวงจร ก็ยิ่งทำให้ผู้ใช้เกิดประโยชน์สูงสุด เพราะไปศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษาเพียงที่เดียว ก็สามารถใช้บริการสื่อ หรือโสตทัศนูปกรณ์ได้แทบทุกประเภท ซึ่งจากการที่ผมได้ศึกษาข้อมูลของศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษาต่างๆนั้น ผมก็จะขอยกตัวอย่างศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษาที่ดี 1 แห่ง มาให้ได้อ่านกันครับ

ตัวอย่างศูนย์บริการสื่อและเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการ​ศึกษาที่ดี

http://www.it.mju.ac.th/index-in.php?lang=

ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยแม่โจ้

วิสัยทัศน์

                เป็นหน่วยงานที่มุ่งแสวงหา และพัฒนาการให้บริการด้านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เพื่อสนับสนุนให้มหาวิทยาลัยสู่ความเป็นเลิศในระดับสากล

พันธกิจ

            ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นหน่วยงานที่ดำเนินงานตามนโยบายของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ โดยมีพันธกิจหลักคือ จัดหาและให้บริการทางด้านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศแก่หน่วยงานภายในมหาวิทยาลัย ซึ่งจำแนกได้ดังนี้

1. พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อพัฒนาภารกิจของมหาวิทยาลัย

2. พัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารมหาวิทยาลัย

3. พัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการค้นคว้าและการเรียนการสอน

4. พัฒนาบุคลากรและนักศึกษาให้มีทักษะทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ

5. พัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสร้างสรรค์สังคมแห่งการเรียนรู้

6. ใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการอนุรักษ์ศิลปะและวัฒนธรรมไทย

จุดประสงค์ของมหาวิทยาลัยแม่โจ้

1.  เพื่อจัดเตรียมทรัพยากรสารสนเทศที่ทันสมัย มีเนื้อหาที่ตรงกับความต้องการของผู้รับ บริการและมีจำนวนที่เพียงพอต่อการใช้บริการ

2.  เพื่อจัดเตรียมบริการที่ช่วยให้เข้าถึงสื่อตีพิมพ์ สื่อมัลติมีเดีย และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่มีคุณภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3.  เพื่อพัฒนาความรู้และทักษะของบุคลากร ให้สามารถสนับสนุนการเรียนรู้ของผู้รับบริการได้อย่างหลากหลาย  

4.  เพื่อสนับสนุนการจัดเรียนการสอนของคณะวิชาที่เปิดสอน          

โครงสร้างการดำเนินงาน

          โครงสร้างเปรียบเสมือนแกนขององค์กร องค์กรก็จะต้องมีหลายฝ่าย หลายหน้าที่เปรียบเสมือนร่างกายเรา มี หัวใจ ตับ ไต คอยทำงานแตกต่างกันไป แต่ก็มีจุดประสงค์เดียวกันคือทำให้ชีวิตอยู่รอด แต่ถ้าภายในร่างกาย มีอวัยวะใดที่ทำงานผิดปกติ เป็นโรคร้ายแรง จุดประสงค์ที่จะทำให้มีชีวิตอยู่รอดนั้น ก็จะไม่บรรลุผล 

          โครงสร้างที่ดีต้องสามารถทำงานได้ราบรื่น บรรลุเป้าหมาย เป็นไปตามจุดประสงค์ได้ แบ่งงานทำกันเป็นกลุ่มๆ ภายในองค์กร มีหัวหน้ากลุ่มตามลำดับความสำคัญที่ลดหลั่นกันไป  แต่ละกลุ่มก็จะมีหัวหน้า ซึ่งเป็นตัวแทนในการประชุมขั้นตอนการทำงาน เพื่อให้มีความเข้าใจที่ตรงกัน เพื่อให้งานภายในองค์กรราบรื่น บรรลุเป้าหมาย สู่จุดประสงค์ที่ตั้งไว้

โครงสร้างการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยแม่โจ้

     

http://www.it.mju.ac.th/structure.php?lang=

เหตุผลที่ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เป็นมหาวิทยาลัยที่ดี คือ มหาวิทยาลัยมียุทธศาสตร์ที่ครบถ้วนในทุกๆด้าน ได้แก่

1. การส่งเสริมและพัฒนาการเรียนการสอนด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ

2. การพัฒนาศักยภาพนักศึกษาให้มีความรู้และทักษะทางด้าน ICT

3. การส่งเสริม สนับสนุนการสร้างนวัตกรรมและองค์ความรู้โดยใช้ระบบ ICT

4. การพัฒนาบุคลากรทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัยให้มีความรู้และทักษะ ทางด้าน ICT

5. การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการและการให้บริการของมหาวิทยาลัยด้วยระบบ ICT

6. การใช้ ICT ในการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม

ขอขอบคุณ ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ 

http://www.it.mju.ac.th